Duration 8:32

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ฉีดวัคซีน mRNA ในเด็ก

Published 8 Oct 2021

🎯 ตรวจสอบกับ ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล 📌 สรุป 📌 Q : คำตอบสั้น ๆ เรื่องนี้ ? A : เด็กที่อายุ 12-15 ปี ที่เป็นผู้ชาย - ฉีดเข็มเดียว เด็กที่อายุ 12 ปีขึ้นไป ที่เป็นเด็กผู้หญิง รวมทั้งเด็กผู้ชายที่มีโรคประจำตัว - ควรฉีด 2 เข็ม Q : เหตุผลของคำแนะนำเหล่านี้ ? A : ก็เริ่มมีการศึกษาวัคซีน mRNA ใช้ในเด็ก ซึ่งในต่างประเทศ เขาก็จะมีการรับรองวัคซีนไฟเซอร์ กับวัคซีนโมเดอร์นา เช่นเดียวกับในประเทศไทย Q : คำแนะนำอย่างเป็นทางการ ? A : ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย จึงได้ออกคำแนะนำว่า เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ควรได้รับวัคซีน ที่ได้รับการรับรองให้ฉีดได้ จากคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งก็คือวัคซีน mRNA ซึ่งในขณะนี้มีชนิดเดียวที่จำหน่าย คือ วัคซีนไฟเซอร์ ถ้าเป็นเด็กผู้หญิง หรือ เป็นเด็กที่มีโรคประจำตัว หรือเป็นเด็กที่อายุเกิน 16 ปีขึ้นไป ขอให้ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ เพราะประโยชน์เนี่ย มีมากกว่าความเสี่ยง แต่ถ้าเป็นเด็กผู้ชาย อายุ 12-15 ปี ที่แข็งแรงดี แนะนำให้ฉีดเพียงเข็มเดียว ยังไม่ต้องฉีดเข็มที่สอง เพื่อป้องกันภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งจะมักมีโอกาสเกิดหลังการฉีดเข็มที่สองในเด็กผู้ชาย ช่วงอายุเท่านี้ เด็กทั้งหญิงทั้งชาย ที่อายุ 16 ปีขึ้นไป ก็สามารถที่จะรับวัคซีน mRNA 2 เข็ม ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ได้เลย Q : แล้วที่แนะนำให้ฉีดวัคซีนเชื้อตาย เช่น ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม เป็นเข็มแรก แล้วค่อยตามด้วย mRNA ? A : วัคซีนเชื้อตาย 2 ชนิด คือ ซิโนแวค และ ซิโนฟาร์ม ซึ่งผลิตในประเทศจีน ได้รับการรับรองในประเทศจีน ให้ใช้ตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป และอีกหลาย ๆ ประเทศก็เริ่มมีการรับรองให้ใช้แล้ว แต่คณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทย เรายังไม่ได้มีการรับรองให้ใช้ในเด็ก อย.ยังไม่รับรอง แสดงว่า ข้อมูลเกี่ยวกับ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพ ยังมีไม่เพียงพอ แล้วเมื่อใดที่ อย.รับรอง เราค่อยไปฉีดกัน ถ้าหากว่าเริ่มมีการรับรองให้ฉีดกันแล้ว ก็มีคนถามว่าเป็นไปได้ไหม สูตรไขว้แบบนี้ เป็นทางออกที่ดีนะคะ แต่คงจะต้องมีการศึกษาเพิ่มมากขึ้น อันนี้น่าจะเป็นทางออกทางหนึ่ง Q : หลายคนได้ยินว่า เด็กป่วยโควิด จะอาการไม่หนัก ? A : จริง ๆ แล้ว เด็กเป็นโควิดไม่ค่อยรุนแรงก็จริง แต่เด็กบางคนก็สามารถเป็นรุนแรงได้ โดยเฉพาะอาจจะมีภาวะการอักเสบหลายระบบ ที่เรียกว่า MIS-C เกิดขึ้นได้ ดังนั้น เราก็ไม่อยากให้เด็กติดเชื้อเลยจะดีที่สุด การฉีดวัคซีนน่าจะเป็นมาตรการที่ดีที่สุดในการป้องกัน ในขณะนี้ วัคซีนในเด็กเนี่ย ยังไม่ถึงพร้อมในเรื่องของความรู้และความเข้าใจ จึงควรฉีดวัคซีนในเด็กที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดก่อน เด็กที่มีโรคประจำตัว เด็กที่อยู่ในชุมชนที่มีการระบาดค่อนข้างสูง เด็กที่มีความเสี่ยงต่ำ อาจจะเลือกที่จะรอได้ แต่จะต้องมีมาตรการส่วนบุคคลที่เคร่งครัด Q : ถ้าเด็กไม่ฉีดวัคซีน หรือ ยังขอรอไปก่อน จะเสี่ยงเพิ่มไหม ? A : เด็กที่ไม่ฉีดวัคซีน เมื่อไปโรงเรียน แน่นอน เขาย่อมมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ถ้าเขาไปอยู่ใกล้ชิดผู้ใหญ่ที่มีการติดเชื้อ เด็กที่ไม่ฉีดวัคซีนมีโอกาสจะติดเชื้อมากกว่าเด็กที่ฉีดวัคซีน จึงจำเป็นที่โรงเรียนจะต้องมีมาตรการในแง่ของ การป้องกันให้โรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดภัย เด็กทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง เพื่อให้โรงเรียนไม่ใช่สถานที่ที่จะแพร่เชื้อได้ Q : การฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีน ไม่ควรถูกใช้เป็นเงื่อนไขการไปโรงเรียน ? A : เด็ก ๆ ทุกคนควรได้รับโอกาสในการไปโรงเรียน และทำกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าเขาจะได้รับวัคซีน หรือ ไม่ได้รับวัคซีน หรือเขาจะได้รับวัคซีนชนิดไหนก็ตาม โรงเรียนน่าจะสามารถเปิดได้ ไม่ว่าเด็กจะได้รับวัคซีนหรือไม่ แต่มาตรการที่สำคัญสำหรับโรงเรียน คือมาตรการการฉีดวัคซีนให้บุคลากรในโรงเรียนทุกระดับ รวมทั้งสมาชิกร่วมบ้านของบุคลากรทุกคน นอกจากนี้ ควรจะฉีดให้กับสมาชิกร่วมบ้านของเด็กนักเรียนทุกคน ถ้าผู้ใหญ่ทุกคนรอบตัวเด็กมีความปลอดภัย ฉีดวัคซีนครบหมด เด็กก็จะปลอดภัยตาม แม้ว่าจะยังไม่ได้รับวัคซีนก็ตาม Q : เช่นเดียวกับอีกหลายเรื่อง ที่แต่ละคนต้องชั่งน้ำหนัก เทียบระหว่าง ประโยชน์ที่จะได้ และ ความเสี่ยงที่จะเกิด ? A : พ่อแม่หลายคนก็จะมีคำถามในใจว่า เอ๊ะ...ควรจะเลือกให้ลูกฉีดวัคซีน mRNA คือ ไฟเซอร์ ไปเลยดีไหม หรือควรจะรอให้วัคซีนเชื้อตายได้รับการรับรองจาก อย.ก่อน แล้วค่อยไปฉีด หรือว่าฉีดไปเลยก่อนที่ อย.จะรับรอง จริง ๆ แล้ว จะต้องมองปัจจัยรอบด้านว่า เด็กมีความเสี่ยงหรือเปล่า ถ้าเด็กมีโรคร่วม มีโรคประจำตัว หรือว่าอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ หมอก็แนะนำว่า ให้ฉีดไปเลยจะดีกว่า แต่ถ้าเด็กไม่ได้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูงมากนัก เด็กไม่ได้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรครุนแรง เป็นเด็กที่แข็งแรงดี อาจจะรอได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วยว่า คุณพ่อคุณแม่ วางมาตรการป้องกันเด็กอย่างดี ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง เพราะว่าเราไม่อยากให้เด็กติดเชื้อก่อนที่จะมีโอกาสได้รับวัคซีน ถึงอย่างไร การฉีดวัคซีน ก็ยังเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการ ป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 เมื่อเด็กจะเปิดโรงเรียน กลับไปอยู่ด้วยกัน เราอยากให้เด็กทุกคนได้รับวัคซีน แต่วัคซีนนั้น จำเป็นต้องได้รับการรับรองโดย อย. จะต้องมีความปลอดภัย ดังนั้น ต้องชั่งน้ำหนัก ประโยชน์ และ ความเสี่ยง จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ที่ทำให้เด็กยังไม่ได้วัคซีน จำเป็นที่จะต้องมีมาตรการส่วนบุคคลที่จะป้องกัน ไม่ให้เด็กติดเชื้อ ถ้าทำได้ ให้ ฉีดวัคซีน ถ้าฉีดวัคซีนไม่ได้ หรือด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม ต้องป้องกันค่ะ สุขอนามัยส่วนตัว สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง จนกว่าทุกคนจะได้รับการปกป้อง แล้วโควิด-19 จะเป็นโรคหวัดธรรมดา ที่เราไม่ต้องกังวลอีกต่อไป จะถึงวันนั้นอีกไม่นานนี้

Category

Show more

Comments - 59